อบต. ดอยหล่อ

ชื่อกระทู้ : วันวิสาขบูชา

ผู้ตั้งกระทู้ : willynco948

IP : 125.25.79.171

วัน-เวลา : 08/05/52 - 10:46 น.

ข้อความ : วันวิสาขบูชา
(การบูชาในวันเพ็ญเดือน ๖)
วันวิสาขบูชา มีความสำคัญทางพระพุทธศาสนา ดังนี้ คือ
๑. เป็นวันที่บุคคลผู้เลิศ ผู้ประเสริฐที่สุดในโลก เสด็จอุบัติขึ้น เกิดมาเป็นภพสุดท้าย ไม่มีภพใหม่อีกต่อไป (วันประสูติ)
๒. เป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ตรัสรู้ธรรมโดยชอบได้โดยพระองค์เอง ไม่มีใครเป็นอาจารย์ ไม่มีใครเป็นผู้สอน (วันตรัสรู้)
๓. เป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จดับขันธปรินิพพาน (วันปรินิพพาน)
วันวิสาขบูชา ในปี พ.ศ. ๒๕๕๒ นี้ ตรงกับวันศุกร์ที่ ๘ เดือน พฤษภาคม ๒๕๕๒ ทำให้เห็นว่า กาลเวลาผ่านไป อย่างไม่เคยรอใคร แต่ละบุคคลที่เกิดมาล้วนมีความตายเป็นที่สุดด้วยกันทั้งนั้น จะเป็นวันไหนนั้นย่อมไม่มีบุคคลผู้ใดสามารถที่จะล่วงรู้ได้เลย เพราะมีอยู่ ๕ อย่างที่ไม่สามารถจะรู้ล่วงหน้าได้เลย คือ ชีวิตจะดำรงอยู่อีกยาวนานเท่าใด ๑ จะตายเมื่อไหร่ ๑ จะตายที่ไหน ๑ จะตายด้วยโรคอะไร ๑ และ ตายแล้วจะไปเกิด ณ ที่ใด ๑
เมื่อพุทธศาสนิกชนระลึกถึงวันวิสาขบูชาด้วยความแยบคาย ย่อมเห็นถึงสัจจธรรม (คือความจริง) ที่ว่าทุกคน ตราบใดที่ยังมีกิเลส ยังไม่ได้ดับกิเลสทั้งหลายทั้งปวงอย่างเด็ดขาด ก็ยังต้องเกิด มีการเกิดอยู่ร่ำไป จากภพหนึ่งไปสู่อีกภพหนึ่ง เกิดแล้วตาย ตายแล้วเกิด ภพแล้วภพเล่า อย่างไม่มีวันจบสิ้น
แต่มีบุคคล บุคคลหนึ่ง ซึ่งเป็นบุคคลผู้เลิศ ผู้ประเสริฐที่สุดในโลก ทรงรู้ ทรงเห็นว่าความเกิดเป็นทุกข์ เพราะเมื่อมีการเกิด จึงนำมาซึ่งความแก่ ความเจ็บ และความตายในที่สุด นำมาซึ่งทุกข์ประการต่าง ๆ อีกมากมาย พระองค์จึงอบรมเจริญปัญญา(แสดงถึงปัญญาคุณ) จนกระทั่งสามารถที่จะบรรลุธรรมดับกิเลสทั้งหมดได้อย่างเด็ดขาดโดยไม่มีเหลือ เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (แสดงถึงพระบริสุทธิคุณ) และที่สำคัญเมื่อพระองค์ได้ตรัสรู้แล้ว การบำเพ็ญพระบารมีของพระองค์ ตลอดระยะเวลา ๔ อสงไขย กับอีกแสนกัปป์ ไม่ได้บำเพ็ญมาเพื่อประโยชน์เฉพาะพระองค์เพียงพระองค์เดียวเท่านั้น แต่เพื่อจะช่วยเหลือสัตว์โลก ให้บรรลุธรรม หลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวงตามพระองค์ด้วย (แสดงถึงพระมหากรุณาคุณ) และในที่สุด ความจริงที่ว่าทุกคนเกิดมาแล้วต้องตาย พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถึงแม้จะเป็นบุคคลผู้เลิศ ผู้ประเสริฐที่สุดในโลก พระองค์ก็ไม่สามารถที่จะล่วงพ้นสัจจธรรมข้อนี้ไปได้ พระองค์ก็ต้องเสด็จดับขันธปรินิพพาน(ตาย) เช่นกัน แต่เป็นการตายที่ไม่ต้องมีการเกิดอีกต่อไป
เมื่อพุทธศาสนิกชนพิจารณาเห็นดังนี้ ย่อมน้อมระลึกถึงพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และมีความเข้าใจความเป็นธรรมดาของโลก ที่จะต้องมีความตายเป็นธรรมดาเหมือนกันหมดทุกคน จึงเป็นเครื่องเตือนที่ดีว่าบัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่ ชีวิตนี้สั้นมาก จะเป็นผู้ที่ประมาทในชีวิตไม่ได้เลย ดังนั้น จึงควรอย่างยิ่งที่จะเจริญกุศลทุกประการในชีวิตประจำวัน มีเมตตา กรุณาต่อเพื่อนมนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งปวง พร้อมทั้งอบรมเจริญปัญญา ฟังพระธรรม สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกในสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ด้วย จึงจะทำให้วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาคือ วันวิสาบูชา เป็นไปกับด้วยประโยชน์อย่างแท้จริง คือ เป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของปัญญานั่นเอง

ท่านที่สนใจสามารถติดต่อสอบถาม สนทนาธรรมเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องยิ่งขึ้นได้ที่มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา เลขที่ ๑๗๔/๑ ซอยเจริญนคร ๗๘ แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร ๑๐๖๐๐ โทรศัพท์ ๐๒๔๖๘ ๐๒๓๙ และที่ www.dhammahome.com

แสดงความคิดเห็น / ตอบกระทู้

*ชื่อ :**
โทรศัพท์ :
อีเมล์ :
*ข้อความ :**
	กรุณาเติมรายละเอียดในช่องที่มีสัญลักษณ์ " * "

กลับไปดูกระทู้ทั้งหมด